ใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาที่ส่งผลให้รูปหน้าโดยรวมดูหมองคล้ำ ถ่ายรูปออกมาพบว่าใบหน้าขาดความสดใส ใช้กี่แอปกลบก็ไม่ช่วย! เพราะความหมองคล้ำ โทรม เกิดได้จากหลายสาเหตุ
หน้าตาไม่สดใส เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง

ปัญหาหน้าตาไม่สดใส เป็นปัญหาที่มีความกว้างของสาเหตุปัญหา แต่เป็นสิ่งที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วมักจะเห็นได้ชัด เพราะเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อองค์รวมของใบหน้า หรือสิ่งที่หลายคนให้คำนิยามว่า “ออร่า” ที่หายไป โดยสาเหตุสำคัญที่มักทำให้ใบหน้าโทรม หมองคล้ำ ขาดความสดใส ได้แก่
- พักผ่อนน้อย
- ดื่มน้ำน้อย
- ความเครียด หรือการเรียนหรือทำงานภายใต้ความกดดัน
- ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
- การสัมผัสกับรังสียูวี หรือการทำงานในพื้นที่กลางแจ้งเป็นเวลานาน
- การสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวหนัง
- พฤติกรรมการใช้ชีวิตแต่ละบุคคลที่ส่งผลต่อสภาพผิวหนัง
ทำไมความเครียด ส่งผลต่อความหมองคล้ำ
เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าความหมองคล้ำ เหี่ยวย่น ไม่สดใสของใบหน้า มักเกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว แต่ทำไม “ความเครียด” ถึงกลายเป็นตัวการสำคัญของสภาพผิวหนังได้ นั่นก็เป็นเพราะว่าเมื่อคนเราเกิดความเครียด ไม่ว่าการอยู่ภายใต้สถานการณ์กดดัน การเรียนหรือการทำงานที่มีความเครียดสูง ร่างกายของคนเราจะหลั่งคอร์ติซอล (cortisol) ออกมา เป็นฮอร์โมนความเครียดที่จะทำให้ร่างกายเข้าสู่โหมดเอาชีวิตรอดมากกว่าโหมดดูแลความสวยงาม ทำให้คนเราละเลยการดูแลตัวเองไป โดยฮอร์โมนตัวนี้ จะเข้าไปลดการสร้างคอลลาเจน ทำลายความยืดหยุ่นของผิวหนัง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความสดใสของใบหน้า ผิวแห้งกร้าน ดูขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น รวมถึงยังทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้แย่ลง
ฮอร์โมนความเครียดส่งผลกระทบอย่างไรต่อผิวหนัง
ลดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ความยืดหยุ่นใต้ผิวส่งผลกระทบต่อระบบไหลเวียนเลือด ผิวจึงดูซีดเซียว หมอง ขาดความเปล่งปลั่งส่งผลต่อการนอน เมื่อการนอนไม่ดี นอนหลับไม่สนิท ทำให้ผิวไม่ได้รับการฟื้นฟูขณะหลับ จึงดูโทรม ผิวคล้ำ ใต้ตาดำทำให้เกิดการอักเสบในระดับ Cell จึงเป็นตัวการในการทำให้เกิดปัญหาผื่น สิว ผิงแห้ง ลอก ขาดความสมดุล หรือเกิดปัญหาผิวไวต่อแสงกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน ทำให้เห็นจุดดำ รอยดำ รอยหมองคล้ำ ฝ้า กระ ต่าง ๆ
สัญญาณบ่งชี้ว่ามีปัญหาหน้าโทรม

ถ้าอยากรู้ว่าตอนนี้ใบหน้าของเราขาดความสดใส หรือมีความโทรมอย่างเห็นได้ชัด สามารถสังเกตสัญญาณที่ร่างกายของเราแสดงออกมาได้ดังนี้
สีผิว : สิ่งที่เห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนที่สุดก็คือสีผิวที่เปลี่ยน มีความคล้ำ หมอง ดูแห้งขาดน้ำ สีผิวดร็อปลงจากโทนสีผิวเดิมอย่างชัดเจน เป็นสัญญาณเตือนที่เห็นได้ชัดด้วยตัวเอง
ใต้ตา : ปัญหาใต้ตา เช่น รอยดำใต้ตา ถุงใต้ตา ใต้ตาบวม เป็นสัญญาณบ่งบอกปัญหาผิวหน้าขาดความสดใสที่ชัดเจนมาก บอกถึงการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดที่ทำงานไม่ดี และเป็นการแสดงให้เห็นว่าร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ
สภาพผิว : เช่น ผิวแห้ง ลอก เป็นขุย แต่งหน้าไม่ติด ผิวขาดน้ำ หรือมีสิวผด สิวอักเสบ หรือผื่นผิวหนังเป็นสัญญาณสะท้อนว่าใบหน้าขาดความสดใส และมีปัญหาจากภายใน
อารมณ์จากใบหน้า : เมื่อใบหน้าหมองคล้ำ ใบหน้ามักดูเหนื่อย ง่วง อ่อนล้า ขาดความสดใสไป เป็นตัวบ่งบอกร่วมที่ทำให้เห็นว่าใบหน้าของเราขาดความสดใสอย่างชัดเจน
ซึ่งถ้าหากพบว่าเรามีปัญหาด้านต่าง ๆ ร่วมกันหลายจุด ก็เป็นสัญญาณที่สะท้อนให้เห็นว่าร่างกายของเรากำลังมีปัญหาจากภายใน เกิดการขาดความชุ่มชื้น คอลลาเจนและอีลาสตินสร้างได้ไม่ดี ต้องได้รับการดูแลบำรุงรักษาโดยด่วน
จบปัญหาหน้าตาไม่สดใส ด้วย 5 ทางเลือกง่ายๆ จาก YSC
หากพบว่าตัวเองกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับความสดใสของใบหน้าที่สะท้อนออกมาชัด ถ่ายรูปออกมาใบหน้าหมองคล้ำ หรือสัมผัสใบหน้าแล้วพบว่าขาดความชุ่มชื้น แห้งกร้าน สัมผัสแล้วไม่นุ่มลื่น สามารถแก้ไขได้ด้วยหัตถการที่ตอบโจทย์ 5 ทางเลือก จาก YSC Clinic โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่จะแก้ปัญหาหน้าไม่สดใส หน้าโทรมหมองคล้ำได้อย่างเห็นผลและตรงจุด



- Hifu : เป็นการใช้เครื่องมือในการปล่อยพลังงานลงสู่ชั้นใต้ผิวหนังเพื่อลดริ้วรอย กระชับผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากภายใน เป็นตัวเลือกที่เห็นผลไวโดยไม่ต้องผ่าตัดพักฟื้น
- โบท็อกซ์ : เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมในการแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยเล็ก ๆ หรือเติมให้ผิวหนังกลับมามีควาทตึงกระชับ สามารถเลือกฉีดเฉพาะจุดที่มีปัญหาได้โดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ อยู่ได้นาน 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้
- ฟิลเลอร์ : เป็นการฉีดสารเติมเต็มที่มีเนื้อละเอียดเข้าไปในจุดที่มีปัญหา สามารถใช้ปรับรูปหน้าและเติมเต็มจุดที่หย่อยคล้อย หรือริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ดี มีความปลอดภัย เพราะฟิลเลอร์สามารถสลายไปเองตามธรรมชาติ อยู่ได้นาน 6-12 เดือน แล้วแต่ยี่ห้อ และจุดที่ฉีดบนใบหน้า
- ผ่าตัดถุงใต้ตา : สำหรับคนที่มีปัญหาถุงใต้ตา การแก้ไขแบบถาวรคือการผ่าตัดถุงใต้ตา ที่จะช่วยเอาไขมันที่สะสมเป็นถุงเล็ก ๆ บริเวณใต้ดวงตาออกมา และใช้เทคนิคในการจัดเรียงไขมันใหม่เฉพาะ YSC ช่วยคืนความสดใสให้ใต้ตาอย่างเป็นธรรมชาติ แผลเล็ก พักฟื้นน้อย
- ผ่าตัดยกคิ้ว : สำหรับ YSC Clinic จะใช้การผ่าตัดยกคิ้วสำหรับปัญหาที่แตกต่างกัน โดยมีเทคนิคแผลใต้คิ้ว (sub brow lift) และแบบแผลเหนือคิ้ว (direct brow lift) ช่วยแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยของคิ้ว หนังตา หางตา และหน้าผาก ให้กลับมามีความตึงกระชับ อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม แก้ปัญหาหนังตาตก หางคิ้วตก ชั้นตาพับทับกันทำให้ใบหน้าดูไม่สดใสได้อย่างเห็นผล และผลลัพธ์หลังทำอยู่ได้นานหลายปี
สำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาใบหน้าขาดความสดใส ผิวหน้าไม่เปล่งปลั่ง ต้องการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนเพื่อคืนความสดใสและความมั่นใจให้กับการใช้ชีวิต 5 วิธีที่ YSC Clinic แนะนำข้างต้น เป็นตัวเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด จบปัญหาหน้าหมองง่าย ๆ สามารถทักมาปรึกษาและประเมินปัญหากับแพทย์ได้โดยตรงที่ช่องทาง Official ของ YSC Clinic เราพร้อมให้คำแนะนำอย่างจริงใจ คืนความสดใสให้กับคุณ
💎 Line : @yscclinic
📞 Tel : 062-6549916
🌐 facebook : YSC Clinic